ข่าว

GVREIT ปั้นพอร์ตฯ โตมั่นคง รักษาอัตราการเช่าในระดับสูง ไตรมาส 3/67 เตรียมจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.1963 บาทต่อหน่วย

Back15 สิงหาคม 2567

กรุงเทพฯ 15 สิงหาคม 2567

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล แอสเสท  แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FPCAMT” ในฐานะ ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โกลเด้นเวนเจอร์ หรือ “GVREIT” เผยผลการดำเนินงานของกองทรัสต์ในไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2567  (เมษายน – มิถุนายน 2567) มีรายได้รวมอยู่ที่ 286.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.49% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดย GVREIT จะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาสที่ 3 ปีงบการเงิน 2567 ในอัตรา 0.1963 บาทต่อหน่วยทรัสต์ คิดเป็นมูลค่าผลประโยชน์ตอบแทนทั้งสิ้น 159.95 ล้านบาท มีกำหนดจ่ายในวันที่ 12 กันยายน 2567 

นายธนะรัชต์ บุญญะโกศล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล แอสเสท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานล่าสุดในไตรมาส 1 ปี 2567 มีอุปทานในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 9.6 ล้านตร.ม. ซึ่งรวมพื้นที่โครงการ One Bangkok Tower 4 พื้นที่ 96,302 ตร.ม. (ข้อมูล: ซีบีอาร์อี) ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่สุทธิติดลบ 13,761 ตร.ม. มีปัจจัยหลักจากผู้เช่ารายใหญ่ย้ายสำนักงานไปอาคารของตนเอง สำหรับอุปทานใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมีพื้นที่ 830,836 ตร.ม. เป็นพื้นที่สำนักงานเกรด A ในเขตศูนย์กลางธุรกิจประมาณ 280,000 ตร.ม. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตลาดอาคารสำนักงานจะมีการแข่งขันสูงจากอุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้น แต่กองทรัสต์ยังคงความสามารถในการบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างแข็งแกร่ง ในไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2567 กองทรัสต์รักษาระดับอัตราการเช่าถึง 89% ซึ่ง เป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยอัตราการเช่าเฉลี่ยของปาร์คเวนเชอร์อยู่ที่ 96% และสาทรสแควร์อยู่ที่ 87% 

กองทรัสต์มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการทุกกลุ่ม ควบคู่กับการดำเนินงานตามแนวทางด้านความยั่งยืน จึงจัดทำโครงการยกระดับคุณภาพอาคาร (Asset Enhancement Initiative: AEI) ให้กับทั้ง 2 อาคาร โดยสาทร สแควร์ได้ปรับโฉมแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ปาร์คเวนเชอร์มีกำหนดการแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งการยกระดับอาคารได้อัปเกรดความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ มีระบบควบคุมการเข้า-ออกอาคารสำหรับผู้ใช้อาคารและผู้มาติดต่อผ่านการสแกนใบหน้า (Face Recognition) และ QR Code พร้อมด้วยระบบจัดการการเข้า-ออกรถยนต์ที่สามารถตรวจและอ่านป้ายทะเบียนแบบอัตโนมัติ (License Plate Recognition) ชำระค่าจอดรถแบบออนไลน์ (E-Payment) และติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ กองทรัสต์ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของผู้ใช้อาคาร ด้วยการพัฒนาและอัปเกรดระบบและอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality: IAQ) เพื่อแสดงผลคุณภาพอากาศที่ผ่านการกรองฝุ่น 2.5 ภายในทุกพื้นที่ของอาคารให้มีความปลอดภัยและเหมาะสม  

“การยกระดับคุณภาพทรัพย์สินทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ร้านค้าตามโครงการ AEI เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินของกองทรัสต์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เช่าและผู้ใช้บริการอาคาร เพื่อแข่งขันกับอาคารสำนักงานใหม่ในสภาวะที่ตลาดอาคารสำนักงานมีการแข่งขันสูง สามารถรักษาอัตราเช่าในระดับให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ได้ในระยะยาวอย่างมั่นคง” นายธนะรัชต์กล่าวสรุป